เงินบาทอ่อนค่าสุดเกือบ 5 ปี จับตาประชุมเฟด สงครามยูเครน-รัสเซีย

0 0
Read Time:1 Minute, 47 Second

“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาเผชิญแรงขาย ตามทิศทางสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย นำโดย เงินเยน อ่อนสุดรอบ 20 ปี และเงินหยวน อ่อนสุดรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง ที่อ่อนค่าลงตามสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน สวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐ ที่ถูกคาดหมายว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% พร้อมกับปรับลดงบดุลในเดือน พ.ค. และมีโอกาสเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องอีกเพื่อสกัดเงินเฟ้อสหรัฐคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทั้งนี้เงินบาทร่วงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 5 ปีที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาบางส่วนจากแรงซื้อตามปัจจัยทางเทคนิคและการปรับโพสิชันก่อนการประชุมเฟดวันที่ 3-4 พ.ค. โดยเงินบาทที่อ่อนค่ายังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามในระยะนี้ ขณะที่ ธปท.ระบุว่า จะติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด และพร้อมจะเข้าดูแลหากเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากเกินไป

ในวันศุกร์ (29 เม.ย.) เงินบาทปิดตลาดที่ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 33.94 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (22 เม.ย.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 25-29 เม.ยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,494 ล้านบาท และมีสถานะเป็น NET INFLOW หรือเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตร 1,961 ล้านบาท (มาจากการซื้อสุทธิพันธบัตร 2,156 ล้านบาท แต่มีตราสารหนี้หมดอายุ 195 ล้านบาท)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-6 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.80-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมเฟด สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือน เม.ย. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน มี.ค. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย.ของไทย ผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการของจีน ยุโรปและอังกฤษ

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
Previous Article
Next Article